พูดไม่ชัดปวดหัวอ่อนแรงปากเบี้ยวตามัว อาการน่ากลัวรีบไปหาหมอหลอดเลือดสมอง |
date:
10 ตุลาคม 2017
| view:
3843 |
ใครเคยเห็นคนที่มีอาการเหล่านี้ หรือเคยมีอาการเหล่านี้บ้าง... อยู่ๆ ก็ปากเบี้ยว มุมปากตก พูดไม่ชัด ใครถามอะไรก็ตอบไม่ได้เหมือนฟังไม่เข้าใจหรือพูดไม่ออก แถมพอจะเดินก็เซล้ม เดินไม่ไหวเพราะแขนขาอ่อนแรง รู้สึกปวดหัวหรือเวียนหัวอย่างรุนแรง ตาก็มองเห็นข้างเดียว แถมตายังมัว โอ๊ยยย!... น่ากลัว ต้องรีบไปหาหมอ ด่วนนนนน...
เห็นแบบนี้แล้วบอกได้เลยว่า อาการโรคหลอดเลือดสมองตีบมาแล้ว เพราะเมื่อผนังหลอดเลือดในสมองและในหลอดเลือดใหญ่ที่คอมีตะกรันไขมันเกาะ ทำให้หลอดเลือดตีบแคบลง เลือดไหลไปเลี้ยงสมองไม่พอ เมื่อถึงจุดหนึ่งโรคก็จะแสดงอาการออกมาอย่างฉับพลันทันใด หากเราไม่เคยรู้จักอาการพวกนี้มาก่อนว่าเป็นอะไรแล้วไม่รีบไปหาหมอ สมองก็จะถูกทำลายมากขึ้นในทุกวินาที คราวนี้แหละ...โรคอัมพฤกต์ อัมพาต จะถามหา หรือถ้าเป็นหนักมากหาหมอไม่ทันอาจถึงขั้นหายไปจากโลกนี้เลยทีเดียว
บางรายโชคดีมีอาการผิดปกติเพียงชั่วคราว อย่างนี้เรียกว่าสมองขาดเลือดชั่วคราว แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะโชคดีเสมอไป หากพบว่าตัวเราเองหรือเห็นญาติมีอาการอย่างที่บอกมาแม้อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแม้แต่มีอาการแล้วหายได้เอง ก็อย่าได้นิ่งนอนใจ ควรรีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด
คุณหมอจะรักษาอย่างไร ก่อนอื่นคุณหมอจะซักประวัติผู้ป่วย หรือสอบถามจากผู้ใกล้ชิดที่เห็นอาการว่ามีอะไรบ้างและเริ่มเมื่อไหร่ พร้อมกับตรวจร่างกาย วัดความดัน การหายใจ ชีพจร ฟังเสียงหัวใจเต้น และทดสอบความรู้สึกตัวโดยการพูดคุย ทดสอบกำลังแขน ขา ความรู้สึกที่ผิวหนัง ดูอาการชาหรือการรับความรู้สึก หากยังสงสัยก็จะส่งเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan) หรือการเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าสมอง (MRI) เพราะจะเห็นหลอดเลือดสมองได้ชัดเจน สามารถบอกขนาดและตำแหน่งของเนื้อสมองที่ถูกทำลายได้
มากไปกว่านั้น หากสงสัยว่าจะเกิดจากเส้นเลือดใหญ่ที่คอตีบ ก็จะทำอัลตราซาวด์หลอดเลือดคาโรติดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง ซึ่งตรวจได้ง่ายและไม่มีผลข้างเคียง มีความแม่นยำสูง และทำให้รู้ว่าเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือด หรือโรคเบาหวานด้วยหรือเปล่า
นอกจากนี้ อาจจะตรวจด้วยการฉีดสีและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ดูสภาพของหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมอง หากตีบเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ อาจรักษาด้วยการทำบอลลูน สุดท้ายก็ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ มีการเอกซเรย์ทรวงอก การตรวจเลือดต่างๆ เพื่อหาสาเหตุและประเมินสภาพของผู้ป่วย แล้วคุณหมอก็จะเลือกวิธีที่ปลอดภัยและเหมาะสมในการรักษา
รักษาโรคหลอดเลือดสมองต้องใช้ยา เริ่มแรกของการรักษา คุณหมอก็ต้องการให้เลือดไหลไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น โดยจะให้ยาละลายลิ้มเลือดทางหลอดเลือดดำ วิธีนี้จะได้ผลดีต้องทำภายในเวลาสามชั่วโมงไม่เกินสี่ชั่วโมงครึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีอาการ ถ้าได้รับการรักษาเร็วก็จะยิ่งมีโอกาสหายและลดความเสี่ยงในการเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต ได้มากขึ้น คุณหมอจะตรวจอย่างละเอียดก่อนการรักษา ว่าผู้ป่วยมีโรคประจำตัวและพร้อมให้รักษาหรือไม่ พร้อมทั้งบอกให้ญาติทราบก่อน
หากผู้ป่วยมาพบหมอช้าเกินไปแต่ไม่เกิน 6 ชั่วโมงตั้งแต่เริ่มมีอาการ หมอจะให้ยาละลายลิ่มเลือดทางหลอดเลือดแดงผ่านทางสายสวยเพื่อให้ตัวยาสัมผัสกับลิ่มเลือดโดยตรง โดยหมอจะฉีดสารทึบรังสีและเอกซเรย์ให้เห็นสภาพของหลอดเลือดก่อน แต่หากโรคหลอดเลือดสมองเกิดเพราะลิ่มเลือดจากหัวใจมาอุดตัน หลังจากรักษาแล้วคุณหมอจะให้ยาต้านการแข็งตัวของเลือดเพื่อป้องกันการเป็นซ้ำ
หลังการรักษา บางรายก็หายเป็นปกติ แต่บางรายอาจมีภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต ต่อเนื่อง ต้องทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมองและร่างกายเพื่อให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ส่วนญาติผู้ป่วยเองก็ต้องหาความรู้และเตรียมความพร้อมในการดูแลผู้ป่วยเมื่อผู้ป่วยกลับไปพักฟื้นที่บ้านแล้ว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม Phyathai Call Center 1772
|
|
|