ปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันที อาการเตือนนี้มีปัญหา!!
ว่ากันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ถ้าเราอยากรู้ว่าใครรู้สึกอย่างไร ก็ให้มองไปที่ดวงตาของเขา ถึงแม้จะไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็มีความเป็นไปได้สูง ที่เราจะรู้ความจริงบางอย่างผ่านการใช้สายตาของเขา ทั้งนี้ ดวงตาไม่เพียงแต่จะบอกความรู้สึกอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ยังสามารถบ่งบอกถึงความผิดปกติของร่างกายคนเราได้ด้วย โดยส่งผ่านมาทางสัญญาณเตือนต่างๆ อาทิ ปวดตา น้ำตาไหล แสบตา ปวดหัว ตาพร่าหรือ อาการตาพร่ามองไม่เห็นทันที ฯลฯ อาการเหล่านี้ ล้วนแต่กำลังบ่งบอกอะไรบางอย่างกับเรา เป็นหน้าต่างของความผิดปกติในร่างกาย ที่จะช่วยบอกเราได้ว่า เราอาจกำลังป่วยเป็นโรคร้ายแรงอะไรสักอย่างหนึ่งอยู่ก็เป็นได้ ตาพร่า คือ อะไร?นพ. สุรัตน์ บุญญะการกุล ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลพญาไท 1 ได้อธิบายถึงอาการ "ตาพร่า" ว่า เป็นอาการที่ดวงตาของคนเราไม่สามารถมองเห็นภาพได้อย่างเป็นปกติ กล่าวคือ จะมองเห็นภาพไม่ชัด โดยอาจมีลักษณะของการมองเห็นที่แตกต่างกันไป เช่น มองเห็นเป็นภาพซ้อน มองเห็นเป็นภาพเบลอ สีสันของภาพผิดเพี้ยน หรือ อาจเห็นว่าภาพมีการตัดขาดเป็นรอยแหว่ง หรือมีจุดดำซ้อนทับอยู่ในภาพ เป็นต้น ปวดหัว ตาพร่าได้อย่างไร เพราะเหตุใดถึงมองไม่ชัด?เนื่องจากดวงตามีเส้นประสาทที่เชื่อมสัมพันธ์กันกับสมอง ดังนั้น อาการปวดหัว ตาพร่า จึงมีสาเหตุเกิดขึ้นได้ไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่โรคที่เกี่ยวกับดวงตาอย่างเดียว โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาพร่าได้นั้น ก็ เช่น - ดวงตาเกิดการอักเสบ
- ภาวะสายตาสั้น
- ภาวะสายตายาว
- การใช้สายตามากเกินไป ติดต่อกันเป็นเวลานาน
- เกิดจากโรคตา อาทิ ต้อหิน ต้อกระจก
- อุบัติเหตุที่กระทบกระเทือนสมอง หรือ ดวงตา
- ภาวะโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
- เนื้องอกในสมอง
- ผลข้างเคียงจากการได้รับยาบางชนิด
- โรคจอประสาทตาหลุดลอก
- เส้นประสาทตาอักเสบ
ปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันที มีสาเหตุเกิดจากอะไร?ภาวะตาพร่าธรรมดา อาจเกิดขึ้นได้จากการที่เราใช้สายตาหนักและหักโหมมากเกินไป แต่หากเป็นภาวะที่อยู่ก็เกิดมีอาการปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นขึ้นมาในทันที จะสามารถเป็นสัญญาณเตือนที่อันตรายได้ว่า เราอาจมีความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับระบบประสาทตาที่รุนแรง หรือ มีความผิดปกติที่เกิดขึ้นจากภาวะของโรคหลอดเลือดสมอง ก็เป็นได้ ทั้งนี้ อาการที่เป็นสัญญาณเตือนสำคัญของโรคหลอดเลือดสมองได้แก่ - พูดไม่ชัด พูดไม่ออก
- ปากเบี้ยว
- แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก
- ตาพร่ามองไม่เห็นทันที
- ปวดศีรษะรุนแรงร่วมด้วย
ทั้งนี้ หากเราเกิดมีอาการปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันทีเกิดขึ้น ร่วมกันกับอาการอื่นๆ เช่น ปากเบี้ยว หรือแขนขาอ่อนแรงทันที ทั้งๆ ที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ขอให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน เพราะ นี่ถือเป็นสัญญาณเตือนสำคัญของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งควรได้รับการรักษาที่ทันท่วงที ไม่เช่นนั้น อาจเสี่ยงต่อภาวะอัมพฤกษ์ อัมพาต พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่มีผลต่อภาวะ ปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันที?- อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป
- การสูบบุหรี่
- ความดันโลหิตสูง
- โรคพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับการถ่ายทอดทางดวงตา
ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ปลอดภัยจากภาวะ "ปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันที"?นพ. สุรัตน์ บุญญะการกุล ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลพญาไท 1 ได้แนะนำถึงการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากอาการปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันที ว่า สามารถจำแนกออกได้เป็น 2 ส่วนคือ การดูแลดวงตา และ การดูแลตัวเองให้ปลอดภัยจากความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดทางสมอง ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีอาการปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันทีได้ โดยมีแนวทางในการปฏิบัติตัว ดังนี้ - พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ดวงตามากจนเกินไป โดยควรหยุดพักสายตาเป็นระยะเมื่อมีอาการปวดหัว ตาพร่า เพื่อให้ดวงตาได้ผ่อนคลายความเมื่อยล้า
- ระมัดระวังไม่ให้ดวงตาโดนลมหรือโดนแสงมาก
- ปกป้องดวงตาจากการถูกฝุ่นเข้า เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคเข้าดวงตา
- เมื่อปวดหัว ตาพร่าก็ควรหยุดพัก เพื่อพักผ่อนให้เพียงพอ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน เพื่อไม่ให้อ้วน และลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดสมองอุดตัน
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
- งดการสูบบุหรี่ ดื่มเหล้า และการใช้สารเสพติด
- มองโลกในแง่ดี ผ่อนคลายความเครียด
- เข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายแรงที่อาจเป็นอันตรายได้
ทั้งนี้ ทางโรงพยาบาลพญาไท 1 มีการรักษาหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับอาการหรือโรคที่เป็นเกี่ยวกับดวงตา เช่นการรักษาด้วยการให้สารอาหารทดแทน การรักษาด้วยแสงเลเซอร์ การผ่าตัดที่มีความชำนาญ ตลอดจนสามารถให้คำปรึกษาและวินิจฉัยได้ว่า สาเหตุของอาการปวดหัว ตาพร่ามองไม่เห็นทันทีนั้น เกิดขึ้นมาจากสาเหตุของภาวะโรคหลอดเลือดสมอง หรือสาเหตุอื่นใดกันแน่ เพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาที่ถูกต้อง โดยหากสังเกตพบอาการผิดปกติ ก็ควรรีบเข้ามาพบและปรึกษากับแพทย์โดยตรง เพื่อการรักษาที่ทันท่วงที และเพื่อการมีสุขภาพดวงตาที่ดี และมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์
นพ. สุรัตน์ บุญญะการกุล ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง โรงพยาบาลพญาไท 1 Phyathai Call Center 1772
|