โรคที่เกี่ยวกับสมองและหัวใจมักมีความซับซ้อนและรักษาค่อนข้างยาก เนื่องด้วยทั้งสมองและหัวใจเป็นอวัยวะที่สำคัญมากทั้งคู่และบริเวณนั้นยังมีหลอดเลือดเกาะเกี่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก ในการรักษาโรคหลอดเลือดในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะต้องทำการรักษาด้วยการผ่าตัดสมองแล้วนั้น หากระหว่างทำการรักษาเกิดความผิดพลาดแม้เพียงน้อยนิด ก็อาจส่งผลต่อชีวิตของผู้ป่วยได้เลยทีเดียว การรักษาจึงต้องกระทำอย่างระมัดระวังและประณีตที่สุด นอกจากทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว การมีเครื่องมือทรงคุณภาพและเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่ดีในการรักษาได้มากขึ้น

     ผ่าตัดสมองอัจฉริยะ HYBRID OR ด้วยเทคโนโลยี Flexmove ถูกสร้างขึ้นก็ด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการสร้างการรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำและสามารถฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว ห้องผ่าตัด HYBRID จะมีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ เพื่อความสะดวกในการทำงานร่วมกันของทีมสหสาขา ซึ่งก็คือการนำแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น ศัลยแพทย์ รังสีแพทย์ อายุรแพทย์หัวใจ วิสัญญีแพทย์ พยาบาลและเจ้าหน้าที่รังสีเทคนิค มาทำงานร่วมกัน โดยมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินการรักษาและทำการรักษาอย่างเป็นระบบ

      ห้องผ่าตัด HYBRID ยังมีเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยให้การผ่าตัดสมองมีความแม่นยำมากขึ้น นั่นคือ เทคโนโลยี Flexmove ที่สามารถถ่ายภาพเอกซ์เรย์ได้ 360 องศา ช่วยให้แพทย์สามารถทำการผ่าตัดรักษาผู้ป่วยที่ซับซ้อนได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ห้องผ่าตัด HYBRID ยังเป็นห้องปลอดเชื้อ เตียงผ่าตัดสามารถปรับองศาได้และอุปกรณ์ผ่าตัดสามารถเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระ เพื่อความสะดวกในการรักษา

 
ห้องผ่าตัด HYBRID เหมาะสำหรับผู้ป่วยประเภทใด

       เหมาะสำหรับรักษาผู้ป่วยกลุ่มโรคซับซ้อนที่ใช้การรักษาผ่านทางสายสวนร่วมระหว่างการผ่าตัดหรือมีความเสี่ยงสูงที่อาจจะต้องผ่าตัดแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาด เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและโรคหลอดเลือดในสมอง โดยเฉพาะการผ่าตัดหัวใจและการผ่าตัดสมอง ได้แก่

      1. กลุ่มผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardio Vascular Thoracic Surgery) เช่น การเปลี่ยนลิ้นหัวใจโดยการใช้สายสวน Tran Arterial Valvular Implantation (TAVI) โดยไม่ต้องผ่าตัดเปิดหัวใจ สำหรับผู้ป่วยที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงต่อการผ่าตัดใหญ่ รวมไปถึงการรักษาลิ้นหัวใจรั่วและหลอดเลือดหัวใจตีบอีกด้วย

      2. กลุ่มผู้ป่วยโรคหลอดเลือด (Vascular Surgery) เช่น การใช้สายสวนรักษาเส้นเลือดใหญ่โป่งพอง Endovascular aneurysmoraphy EVAR ซึ่งลดผลแทรกซ้อนจากการผ่าตัดได้มาก

      3. กลุ่มผู้ป่วยระบบประสาทและสมอง (Neurosurgery) เช่น เส้นเลือดโป่งพองในสมอง (Cerebral aneurysm) หลอดเลือดในสมองตีบหรือตัน เป็นต้น

ห้องผ่าตัด HYBRID ของโรงพยาบาลพญาไทให้ประสิทธิภาพเหนือกว่าห้องผ่าตัดสมองทั่วไปอย่างไร?

       ขึ้นชื่อว่าห้องผ่าตัดอัจฉริยะย่อมต้องให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปจากห้องผ่าตัดธรรมดาแน่นอน เรามาดูกันว่าห้องผ่าตัด HYBRID ต่างจากห้องผ่าตัดสมองทั่วไปอย่างไรบ้าง ดังนี้

       1. กระบวนการในการวินิจฉัยและรักษาเกิดขึ้นได้ในครั้งเดียวกัน (one visit)

       2. การผ่าตัดมีความปลอดภัยมากขึ้น (safer procedures)

       3. ระยะเวลาทำการผ่าตัดสมองสั้นลง (shorter procedures)

       4. ได้ภาพทางรังสีระหว่างผ่าตัด (faster imaging)

       5. ผลลัพธ์การรักษาดี (better outcomes)

       6. พักฟื้นอยู่ในโรงพยาบาลในระยะเวลาที่สั้นลง (shorter hospital stays)

       7. เหมาะกับผู้ป่วยที่มีภาวะโรคซับซ้อนและมีภาวะเสี่ยงสูง

        นอกจากประสิทธิภาพด้านต่างๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว ห้องผ่าตัด HYBRID ยังประกอบด้วยอุปกรณ์การผ่าตัดต่างๆ ครบครัน ทันสมัยและมีเทคโนโลยีระดับสูงที่จะทำให้การผ่าตัดสมองมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนอกจากอุปกรณ์การผ่าตัดทั่วไป เช่น เตียงผ่าตัด เครื่องมือผ่าตัด เครื่องดมยาสลบ ไฟส่องผ่าตัด ยังประกอบไปด้วยอุปกรณ์ทำการสายสวนทางหลอดเลือดผ่านผิวหนัง อุปกรณ์วัดความดันจากสายสวนได้ทันที อุปกรณ์เอกซเรย์ความละเอียดสูง การสร้างภาพเป็นสามมิติเพื่อวางแผนการรักษาได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถส่งสัญญาณภาพพร้อมเสียงไปที่ห้องประชุม เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้อีกด้วย ถือเป็นห้องผ่าตัดที่ทันสมัยมากเลยทีเดียว

       กล่าวได้ว่า ?ห้องผ่าตัดอัจฉริยะ HYBRID OR ด้วยเทคโนโลยี Flexmove? ของโรงพยาบาลพญาไท มีความครบครันในการให้บริการผ่าตัดโรคที่มีความซับซ้อนเป็นอย่างมาก เช่น การรักษาโรคหลอดเลือดต่างๆ ด้วยการผ่าตัดหัวใจและการผ่าตัดสมอง ทั้งนี้ เพราะมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เต็มไปด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ควบคู่กับอุปกรณ์ที่มีความทันสมัย พร้อมทำการรักษาผู้ป่วยโรคที่มีความซับซ้อนดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งล้วนแต่เป็นโรคที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อนและความชำนาญสูงมากในการผ่าตัด นอกจากห้องผ่าตัดอัจฉริยะจะให้ผลลัพธ์ที่ดีเลิศแล้ว การฟื้นตัวยังทำได้รวดเร็วกว่าปกติอีกด้วย

       การรักษาที่ดีและมีประสิทธิภาพนั้น เป็นหัวใจสำคัญของการรักษาโรคทุกโรค โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดในร่างกายที่มีความเสี่ยงสูงในการรักษา เพราะการผ่าตัดหัวใจและการผ่าตัดสมอง ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จึงต้องใส่ใจในทุกกระบวนการของการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกับผู้ป่วย เพื่อสุขภาพได้กลับมาดีดังเดิม และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับครอบครัวอันเป็นที่รักต่อไป

       ผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง มักกังวลเรื่องการผ่าตัด แต่ด้วยการวินิจฉัยและการรักษา โดยเฉพาะการเข้ารับการผ่าตัดในห้องผ่าตัด OR HYBRID ของโรงพยาบาลพญาไท ซึ่งเป็นการรวมกระบวนการวินิจฉัย การรักษา และการผ่าตัดเข้าไว้ด้วยกันในครั้งเดียว แผลผ่าตัดสมองเล็ก ผลการรักษาจึงดีกว่าการผ่าตัดแบบเดิม เนื่องจากจะทำหัตถการเฉพาะที่จำเป็น ลดการผ่าที่มากเกินไป ลดการเสียเลือด ผู้ป่วยจะมั่นใจได้ในเครื่องมือ และทีมแพทย์ โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะโรคที่ซับซ้อน หรือผู้ป่วยที่มีภาวะเสี่ยงสูง เมื่อได้รับการรักษาและการทำหัตถการไปพร้อมๆ กันของทีมสหสาขา จะทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็ว ลดอาการแทรกซ้อน ระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาล หรือต้องนอนในหอผู้ป่วยวิกฤติสั้นลง สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและคลายกังวลเมื่อมารักษากับ รพ.พญาไท ที่เอาใจใส่ทุกรายละเอียด เพื่อจุดมุ่งหมาย คือการดูแลรักษาให้ผู้ป่วยกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

	นพ. สุรัตน์ บุญญะการกุล ความชำนาญ : ผู้อำนวยการศูนย์โรคหลอดเลือดสมอง                                สถานที่ทำงาน : โรงพยาบาลพญาไท 1		รศ.นพ.สมบัติ มุ่งทวีพงษา ความชำนาญ : แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหลอดเลือดสมองและภาวะวิกฤติทางสมอง                              สถานที่ทำงาน : โรงพยาบาลพญาไท 2
	นพ.จิระพัฒน์ อุกะโชค ความชำนาญ : แพทย์หัวหน้าศูนย์สมองและระบบประสาท                                สถานที่ทำงาน : โรงพยาบาลพญาไท 3